ระนอง

            แผ่นดินของเรา
 

      " ถึงอยู่แคว้นใด ไม่สุขสำราญ   เหมือนอยู่บ้านเรา ชื่นฉ่ำค่ำเช้าสุขทวี
  ทรัพย์จากผืนดิน สินจากนที มีสิทธิ์เสรี  สันติครองเมือง 
        เรามีป่าไม้อยู่สมบูรณ์  ไร่นาสดใสใต้ฟ้าเรือง โบราณสถานส่งนามประเทือง
  เกียรติเมืองไทยขจรไปทั่วแดนไกล
        รักชาติของเรา ไว้เถิดผองไทย ผืนแผ่นแหลมทอง รวมพี่รวมน้องด้วยกัน
  รักเกียรติรักวงศ์ เสริมส่งสัมพันธ์ ทูนเทิดเมืองไทยนั้น ให้ยืนยง"
 

"บทเพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ลำดับที่ ๓๔ ปี พ.ศ.๒๕๐๒" 
ขออัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ เพื่อใช้อ้างอิงในการกล่าวถึงจังหวัดระนองในครั้งนี้ .....
 
     
          จังหวัดระนอง เป็นเมืองเล็กที่สุดของประเทศไทย ที่มีฉายาว่า "เมืองสุดหล้าฟ้าเขียว" โดยคำกล่าวนี้ เป็นคำกล่าวที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน แต่ปัจจุบัน เมืองระนอง ได้รับฉายาใหม่แล้วว่า เป็นเมือง "ฝนแปดแดดสี่" ทั้งนี้ก็เพราะว่า ความอุดมสมบูรณ์ของเมืองระนอง ที่มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ทั้งป่าบกและป่าในทะเล หรือ ป่าโกงกางนั่นเอง เกาะต่างๆ ในระนอง อันได้แก่ หมู่เกาะกำ เกาะค้างคาว เกาะญี่ปุ่น เกาะช้าง เกาะพยาม ก็มีชื่อเสียงที่สวยงามแห่งน่านน้ำทะเลอันดามัน นอกจากนี้ยังเปิดประตูสู่แผ่นดินใต้สุด ของประเทศเมียนมาร์อีกด้วย

Three King's Memorial of Ranong, Thailand. Built in remembrance of the visits by King Chulalongkorn (Rama V) in 1890, King Vijiravudh (Rama VI) in 1909 and King Prajadhipok (Rama VII) in 1982, located at the foot of Niwet Khiri hill

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้